วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

แควาเลียร์คิงชาลส์สแปเนียล






{pic-alt} ลักษณะทั่วไป

คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลเป็นสุนัขพันธุ์ตุ๊กตา ตัวเล็กแต่มีความสง่างาม เหมาะทั้งกับชีวิตในเมืองและชีวิตในชนบท เชื่อฟังเจ้าของ ฝึกง่าย คล่องแคล่วว่องไว เป็นสุนัขที่เหมาะกับการนำไปใช้ในการบำบัดผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ขนนุ่มยาวเส้นเล็กราวแพรไหม มีทั้งหมด 4 สี คือ สีน้ำตาลเชสนัทปนสีขาว(Blenheim) สีดำปนสีขาวและสีน้ำตาลแทน (Tricolor) สีแดงเข้ม (Ruby) สีดำและสีน้ำตาลแทน อายุโดยเฉลี่ยประมาณ 10-15 ปี

{pic-alt} ความเป็นมา


หลายสิบปีมาแล้วตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 ที่ คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล ซึ่งได้ตั้งชื่อตามกษัตริย์ คิง ชาร์ลส์ที่ 2 ของสหราชอณาจักร ได้รับการบันทึกอยู่ในภาพวาดและรูปถ่ายร่วมกับครอบครัวชั้นสูง แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล เป็นสัตว์ที่มีเลี้ยงไว้ภายในบ้าน ประหนึ่งเป็นสมบัติอีกชิ้นที่มีราคาหรูหราของชนชั้นสูง นอกจากนี้คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลยังสามารถระงับอารมณ์ของคนที่กำลังหวั่นวิตกให้สงบลง และเยียวยารักษาโรคเครียดได้อีกด้วย

{pic-alt}


{pic-alt} ลักษณะนิสัย

คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลมีจิตใจดี เป็นมิตร อ่อนหวาน อ่อนโยน ร่าเริงไม่เขินอาย ไม่ก้าวร้าว ฝึกง่าย เป็นสุนัขที่เติบโตมากับเด็กๆ และเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว ชอบเดินออกกำลังกาย หรือไม่ก็นั่งเล่น นอนเล่น

{pic-alt} การดูแล


คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลอยู่ได้ดีทั้งพื้นที่กว้าง และพื้นที่แคบอย่างเช่น อพาร์ตเม้นต์ พวกเขาสามารถวิ่งเล่นออกกำลังกายได้เองภายในตัวบ้าน หรือสนามหญ้าหน้าบ้าน ซึ่งการออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับคาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียลคือการพาพวกเขาเดินเล่นรอบๆ บ้านประมาณ 10 -15 นาทีเป็นประจำ ในส่วนการดูแลทำความสะอาด ควรแปรงขนเป็นประจำ อย่างน้อยที่สุด 2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเฉพาะก่อนอาบน้ำ เพื่อไม่ให้ขนติดเป็นสังกะตัง การทำความสะอาดควรอาบน้ำ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง และควรตรวจเชคดูแลความสะอาดช่องหูและรอบดวงตาด้วยการเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น หมาดๆ ทุกครั้งหลังอาบน้ำ
{pic-alt}

{pic-alt} ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล ต้องการความรักมากเป็นพิเศษ ผู้เลี้ยงควรมีเวลาอยู่กับเขา ให้มีกิจกรรมร่วมกับครอบครัว สามารถพาเขาเดินเล่นได้เป็นประจำทุกวัน และดูแลแปรงขนให้เขาสม่ำเสมอ

{pic-alt} ข้อควรจำ


คาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล มีโอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับลิ้นหัวใจ โรคสะบ้าเคลื่อนในสุนัข ต้อกระจก โรคหูชั้นนอกอักเสบ เสี่ยงต่อการสูญเสียการรับรู้ทางเสียง ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงควรพาไปตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
{pic-alt}
























วันเสาร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ปาปิยอง






{pic-alt} ลักษณะทั่วไป

สุนัขขนาดเล็กขาวยาวสลวยเหมือนเส้นไหม หูตั้งสวยรูปทรงคล้ายปีกผีเสื้อ ต้องการการดูแลมากกว่าสุนัขพันธุ์เล็กทั่วไป เนื่องจากมีคนยาวเป็นจุดเด่น เป็นมิตรรักเจ้าของ ชอบออกกำลังกาย หูลักษณะคล้ายกับปีกผีเสื้อ (Papillon ในภาษาฝรั่งเศส หมายถึงผีเสื้อ)

{pic-alt} ความเป็นมา
ปาปิยองเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแก่มากที่สุดสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของยุโรป มีการสันนิษฐานถิ่ยกำเนิดว่าอยู่ในประเทศฝรั่งเศส บ้างสันนิษฐานว่ามีต้นกำเนิดในจีนแต่มีการนำไปค้าขายและขยายพันธุ์กันอย่างกว้างขวางในประเทศเสปน ซึ่งเดิมปาปิยองเป็นน้องหมาหูตก มีชื่อเรียกว่า สเปเนียลแคระ เป็นที่นิยมนำมาเป็นแบบวาดรูปของอิตาลีช่วงคริสศตวรรษที่ 13 ถึงคริสศตวรรษที่ 15 นอกจากนี้ยังพบในภาพวาดของฝรั่งเสศและเสปน ส่วนมากจะเป็นรูปน้องหมาปาปิยองนั่งอยู่บนตักของหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ โดยทางสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขFCI ได้ตั้งชื่อพวกเขาอย่างเป็นทางการว่า "ทอย สเปเนียล" ต่อมามีการพัฒนาสายพันธุ์กลายมาเป็นปาปิยองหูตั้ง ขนหูแผ่ยาวสบายคล้ายปีกผีเสื้อ จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็นปาปิยอง ที่แปลว่า ผีเสื้อในภาษาฝรั่งเศส ซึ่งสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข AKC เลือกที่จะเรียกพวกเขาว่า "ปาปิยอง" ส่วนปาปิยองหูตกจะเรียกเป็นอีกชื่อว่า "ฟาแลน" (Phalène) ซึ่งปาปิยองได้รับการจดทะเบียนของสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข AKC เมื่อปีค.ศ. 1915
{pic-alt}


{pic-alt}ลักษณะนิสัย


เป็นน้องหมาที่มีความฉลาดเฉลียว มีไหวพริบเป็นเลิศ หูไว ตาไว เป็นน้องหมาเฝ้าเวรยามได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้พวกเขายังเป็นมิตร รักเด็ก รักครอบครัว เชื่อฟังคำสั่ง มีความสามารถในการทำโชว์การแสดงต่างๆ รักรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ของคนในครอบครัว หรือคนแปลกใหม่ เก่งการสร้างความประทับใจ ขี้เล่น เหมาะกัลเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนรักของครอบครัว แต่ในบางอารมณ์ก็เอาแต่ใจตัวเอง เรียกร้องความสนใจ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง และดื้อเงียบ

{pic-alt} การดูแล

ปาปิยองมีขนที่ค่อนข้างยาว พลัดขนบ่อย รักความสะอาดจำเป็นต้องได้รับการแปรงขนเป็นประจำทุกวัน โดยแปรงที่ใช้ควรเป็นแปรงที่มีความอ่อนนุ่ม ควรอาบประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และทำความสะอาดที่หูเป็นพิเศษ เพราะอาจเกิดการอักเสบได้ง่าย

ส่วนการออกกำลังกาย ควรพาพวกเขาออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน หรือหากิจกรรมเกมสนุกๆ ให้พวกเขาได้เล่น พาเข้าสังคมบ้านจะได้ไม่กลัวหรือหวาดระแวงคนแปลกหน้า ที่สำคัญควรฝึกเอ็นเตอร์เทน เช่น ยืน 2 ขา เต้นระบำ หมุนตัว เป็นต้น พวกเขารักและมีความถนัดในด้านนี้มากๆ



{pic-alt} ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

ปาปิยองเป้น้องหมาน่ารักชอบอยู่กับคน แต่ก็ซุกซนมากๆ ก็ควรมีรั้วรอบขอบชิด หมั่นพาออกไปเดินเล่น พาไปออกกำลังกาย ที่สำคัญผู้เลี้ยงจะต้องคอยให้ความรัก ความเอ็นดูสุนัขด้วยนะ

การพาปาปิยองเข้าสังคมก็เป็นอีกสิ่งที่จำเป็นถึงธรรมชาตินิสัยจะเป็นน้องหมาจิตใจดี อ่อนโยนก็ตาม แต่เพื่อไม่ให้พวกเขาหวาดกลัวคนแปลกหน้า เกิดพฤติกรรมก้าวราว จึงไม่ควรเก็บเขาไว้แต่ในบ้านไม่ให้พบปะเจอใคร อาจส่งผลให้พวกเขารู้สึกเหงา และรู้สึกไม่มั่นคงทางอารมณืได้ และที่สำคัญควรหมั่นแปรงขน และทำความสะอาดขนให้พวกเขาอย่างสม่ำเสมอ






{pic-alt}ข้อควรจำ

ปาปิยองมีกระดูกขาที่ค่อนข้างเล็กและเปราะบางควรระมักระวังเรื่องอุบัติเหตุ วิ่งชนตู้ โต๊ะ เตียง นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มมีปัญหาเกี่ยวกับข้อกระดูกขาหลัง ไม่ควรให้พวกเขาวิ่งกับพื้นลื่นๆ เป็นเวลานาน อีกตำแหน่งหนึ่งที่ควรระมักระวังคือบริเวณกลางกะโหลกศีรษะ ที่จะมีช่องเปิดตรงส่วนกลาง กะโหลกศีรษะค่อนข้างบาง ควรป้องกันไมให้ได้รับการกระทบกระเทือน แล้วถ้าดูแลรักษาสุขภาพเขาได้ดีก็จะสามารถมีอายุได้ยืนยาวเฉลี่ย 16 ปี
{pic-alt}













ดัชชุน









{pic-alt} ลักษณะทั่วไป


ดัชชุน รูปร่างเตี้ย ขาสั้น ตัวยาว แต่มีการพัฒนาของกล้ามเนื้อที่แน่นและแข็งแรง ลักษณะการเชิดศีรษะเต็มไปด้วยความกล้าหาญและมั่นใจ สีหน้าของดัชชุนแสดงออกซึ่งความฉลาด ทั้งๆ ที่ขาสั้นเมื่อเทียบกับความยาวของลำตัว แต่ดัชชุนด์ไม่เคยแสดงออกถึงลักษณะของความพิการ งุ่มง่ามหรือยืดยาดในการเคลื่อนไหว มีความฉลาด สดใสและกล้าหาญโดยไม่คำนึงถึงอันตราย มุ่งมั่นในการทำงานทั้งบนดินและใต้ดิน ประสาทสัมผัสทั้งหมดพัฒนาอย่างดี มีคุณสมบัติพิเศษสำหรับเกมการล่าสัตว์ใต้ดิน นอกจากนี้ ยังเต็มไปด้วยจิตวิญญาณในการล่าสัตว์ รูปร่างและจมูกที่เหมาะสม ทำให้ได้เปรียบเหนือพันธุ์อื่นทั้งหมดของสุนัขที่ใช้ในกีฬาการสะกดรอย

{pic-alt} ความเป็นมา


สุนัขดัชชุน เป็นสุนัขที่อยู่ในกลุ่มฮาวด์มีรูปร่างที่กระทัดรัด ฉลาด ขี้ประจบ ลำตัวยาวดูแปลกตาจึงเป็นที่รู้จักกันในนาม "สุนัขไส้กรอก" ชื่อดัชชุน (dachs หมายถึงสัตว์ชนิดหนึ่ง hund หมายถึงสุนัข ) ปรากฎในหนังสือเกี่ยวกับการล่าสัตว์ในยุโรปสมัยกลาง เป็นสุนัขที่มีความคล้ายคลึงสุนัขฮาวด์ในการแกะรอย และมีรูปร่างและอารมณ์คล้ายสุนัขเทอร์เรียร์ มีความสามารถในการติดตามตัวแบดเจอร์ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าชนิดหนึ่งอาศัยอยู่ใต้ดินและมักจะออกมาหาอาหารตอนกลางคืน จึงมักถูกเรียกว่าสุนัขแบดเจอ
ด้วยความแข็งแรงและทรหด บวกกับความฉลาดและกล้าหาญ ทั้งบนและใต้พื้นดิน สุนัขดัชชุน หลายตัวรวมกันสามารถเข้าต่อกรกับหมีป่าได้อย่างสบาย ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้จึงมีการปรับปรุงพันธุ์เพื่อใช้ในเกมล่าสัตว์แบบอื่นๆ สุนัขดัชชุนด์ขนาดเล็กที่มีน้ำหนัก 16 - 22 ปอนด์ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับสุนัขจิ้งจอก และในการแกะรอยกวางที่ได้รับบาดเจ็บ สุนัขขนาดนี้ได้กลายมาเป็นที่รู้จักกันดีในอเมริกา สุนัขที่มีขนาดเล็กกว่า โดยมีน้ำหนัก 12 ปอนด์ ถูกนำมาใช้ล่าสัตว์ป่าชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า "Stoat" มีขนาดเล็ก มีขนสีน้ำตาล อาศัยอยู่ในยุโรปตอนเหนือ
การนำเข้าสุนัขพันธุ์ดัชชุนด์มายังประเทศสหรัฐอเมริกา เกิดขึ้นมาก่อนการจัดโชว์สุนัขอเมริกาครั้งแรก สุนัขที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกใช้ในการล่าสัตว์น้อยมากเพราะว่าไม่ค่อยมีตัวแบดเจอร์และหมีป่า และไม่มีการล่ากวางด้วยสุนัข รวมทั้งไม่มีการล่าสุนัขจิ้งจอกด้วยการดมกลิ่น ลักษณะและรูปร่างที่ถูกต้องของสายพันธุ์ได้รับการส่งเสริม โดยการนำเข้าสายพันธุ์ที่ใช้ในการล่าสัตว์ของเยอรมันและเพื่อส่งเสิรมความสามารถในการล่าสัตว์ รวมถึงรูปร่างและอารมณ์ที่ดีเลิศ ความสามารถในภาคสนามตามกฎของ AKC ได้รับการกำหนดขึ้นในปี 1935
{pic-alt}


{pic-alt} ลักษณะนิสัย


ดัชชุนเป็นสุนัขฉลาด ขี้สงสารและไม่ค่อยสร้างความ ยุ่งยาก ไม่ว่าจะอยู่ในบ้านหรือนอกบ้าน หากได้ รับการ ฝึกอย่างดี อย่างถูกวิธี มันจะเรียนรู้ที่จะเชื่อฟังคำสั่ง เข้ากับเด็กได้ดี ทีเดียว


{pic-alt} การดูแล
สุนัขพันธุ์ดัชชุนมีสัญชาตญาณของความเป็น นักล่ามันชอบขุดดินเป็นนิสัยในสายพันธุ์ มันชอบที่จะ ขุดดินนอกบ้าน และตะกรุยพื้นในบ้าน หากไม่ได้รับการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ มีแนวโน้มที่จะอ้วนเพราะสุนัขพันธุ์ดัชชุนตัวเตี้ยเล็กนี้ จะมีขาสั้นแต่ลำตัว ยาว อันจะเป็นสาเหตุทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับหลัง กำลังศูนย์ถ่วงที่น้ำหนักตกลงบนลำตัว หากกินมากเกินไป จนอ้วนจะทำให้หลังแอ่นอาจจะมีปัญหากับกระดูกสันหลังได้ ผู้เลี้ยงควรใส่ใจกับปัญหาดังกล่าวด้วย


{pic-alt}

{pic-alt} ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม


ผู้ที่จะเลี้ยงดัชชุน ควรเป็นผู้เลี้ยงที่มีเวลาพาสุนัขไปออกกำลังกาย และให้ความสำคัญกับการควบคุมดูแลสุขภาพของสุนัข








{pic-alt}นิสัยทั่วไป

นิสัยที่ทำให้หลายคนหลงใหลได้ปลื้มกระทั่งอดใจไม่ไหว ต้องหา สุนัข ดัชชุน มาไว้เป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของครอบครัว คือ ดัชชุน เป็นสุนัขที่อารมณ์สดใส ใจดี และมีชีวิตชีวา สง่างาม กล้าหาญ มีความมุ่งมั่น ชอบค้นหา มีจมูกดมกลิ่นที่ยอดเยี่ยม แต่ออกแนวดื้อรั้น อีกทั้งยังมีความอยากรู้อยากเห็น แถมมีความซุกซน 

          ขณะเดียวกัน สุนัข ดัชชุน ก็มีความเฉลียวฉลาด และที่เป็นเสน่ห์สุดๆ ของเจ้าหมาพันธุ์ไส้กรอกก็ตรงที่ "เขาจะรักเจ้าของอย่างมากๆ ขี้อ้อนสุดๆ" ด้วยเหตุนี้ในต่างประเทศจึงนิยมเลี้ยงดัชชุนไว้ในบ้าน โดยเฉพาะครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ และเด็กเล็ก 

          และอย่างหนึ่งที่ไม่อาจลืมหรือมองข้ามไปได้ จนบางครั้งทำให้หลายๆ คนคิดจะคัดออกจากการเป็นสมาชิกของครอบครัวทั้งที่เป็นธรรมชาติของมัน ก็คือ ดัชชุน จะชอบขุดดิน ขี้อิจฉา โกรธง่าย และค่อนข้างดื้อรั้น อย่าแปลกใจหากมันชอบที่จะขุดหลุมขุดโพรงและวิ่งไล่จับหนูจับแมลงสาบเล่น เพราะนั่นคืออุปนิสัยดั้งเดิมของมันที่ถ่ายทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ 




{pic-alt}อาหารและการเลี้ยงดู

 หลายๆ คนที่เปิดใจกว้างคิดจะรับเจ้าสุนัขไส้กรอกเข้ามาเป็นสมาชิกภายในบ้าน ก่อนอื่นต้องถามใจด้วยว่า มีเวลาพาเขาไปเดินเล่นอย่างน้อย 2-3 ครั้ง/สัปดาห์ หรือไม่ เพราะดัชชุนเป็นสุนัขที่ชอบการเดินมาก อีกทั้งยังอ้วนง่าย ทำให้เสี่ยงต่อปัญหาด้านสุขภาพตามมาภายหลัง ดังนั้น ในการเลือกซื้อสุนัขพันธุ์นี้มาเลี้ยงจะต้องดูในเรื่องสุขภาพและความแข็งแรงเป็นหลัก 

        สำหรับอาหารที่ใช้เลี้ยง สุนัข ดัชชุน ควรใช้อาหารเม็ด ควรให้วันละ 2 มื้อ เช้า-เย็น ข้อควรระวังในการเลี้ยง ดัชชุน คือ ห้ามเลี้ยงจนมันอ้วน เพราะจะมีปัญหาต่อกระดูกสันหลังของมันได้








{pic-alt}โรคและการป้องกัน


  สุนัข ดัชชุน มักจะเป็นโรคตะโพกอ่อน จะพบอาการชัดเจนเมื่อสุนัขโตแล้ว ถ้าเป็นโรคนี้แล้วจะกระโดดไม่ไหวเหมือนขาไม่มีแรง นอกจากนี้ ส่วนหลังของดัชชุนจะได้รับอันตรายได้ง่ายมาก เนื่องจากมีหลังที่ยาวกว่าปกติ กระดูกงอระหว่างกระดูกสันหลังเมื่ออายุมาก และปัญหาเกี่ยวกับข้อกระดูกสันหลัง           ดังนั้น อย่าลูบหลังของ สุนัข ดัชชุน บ่อย หรืออย่าให้ถูกกระทบกระแทกจากการกระโดด และไม่เหมาะที่จะเลี้ยง ดัชชุน ในบ้านที่มีพื้นต่างระดับหรือพื้นที่สูงๆ ต่ำๆ มาก






เกรตเดน


{pic-alt} ลักษณะทั่วไป

สุนัขสายพันธุ์เกรทเดนนั้น มีความสง่าผ่าเผย มัดกล้ามสมส่วนดูหน้าเกรงขาม เกรทเดนถึงแม้จะดูตัวใหญ่น่าเกรงขามแต่มันไม่มีนิสัยก้ารร้าว บางครั้งมันมักจะมีอุปนิสัยดื้อและซน เกรทเดนจัดได้ว่าเป็นสุนัขที่มีเสน่ห์ มีความซื่อสัตย์และมีความจงรักภักดีต่อ และที่สำคัญเกรทเดนชอบที่จะได้รับความรักและความอบอุ่นจากผู้เป็นเจ้าของเสมอความเป็นมา

เกรทเดนสุนัขสายพันธุ์นี้ถูกพัฒนาขึ้นในประเทศ เยอรมนี สุนัขพันธุ์เกรทเดนเป็นสุนัขที่มีขนาดใหญ่ แข็งแรง มีความสามารถเฉพาะตัวสูง ชาวเยอรมันได้พัฒนาสุนัขพันธุ์นี้ขึ้นมาเพื่อล่าหมูป่า แต่ในปัจจุบันเกรทเดนได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้ดีขึ้น

{pic-alt} ลักษณะนิสัย

เกรทเดนเป็นสุนัขที่ขี้ประจบ เป็นมิตร เงียบๆ และสุภาพกับเด็กๆที่ปฏิบัติต่อมันอย่างนิ่มนวล หากมีคนมาหาจะส่งเสียงเห่าดังๆ บอกเจ้าของให้รู้ แต่ไม่ก้าวร้าวหรือกัด


{pic-alt} การดูแล

เกรทเดน เป็นสุนัขขนสั้น เรียบเป็นมันเงางาม ควรแปรงขนให้สุนัขเกรทเดนทุกสัปดาห์เป็นประจำ 5-10 นาที ก็เพียงพอ เพราะเป็นสุนัขที่มีขนชั้นเดียว ดังนั้นในขณะที่ขนตายกำลังร่วงขนใหม่ก็จะขึ้นมาทดแทนทันที ทั้งนี้ผู้เลี้ยงควรหาเวลาออกกำลังกายให้มันอย่างสม่ำเสมอ แต่อย่าลืมคำนึงถึงพื้นที่ของบ้านของคุณด้วย ส่วนเรื่องของการออกกำลังกาย เกรทเดนเป็นสุนัขที่แข็งแรง อยากรู้อยากเห็นตามสัญชาติญาณของสุนัขล่าเนื้อ จึงควรให้เกรทเดนได้ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อที่เขาจะได้ไม่อ้วนและไม่เครียด




{pic-alt} ลักษณะทั่วไป

สุนัขสายพันธุ์เกรทเดนนั้น มีความสง่าผ่าเผย มัดกล้ามสมส่วนดูหน้าเกรงขาม เกรทเดนถึงแม้จะดูตัวใหญ่น่าเกรงขามแต่มันไม่มีนิสัยก้ารร้าว บางครั้งมันมักจะมีอุปนิสัยดื้อและซน เกรทเดนจัดได้ว่าเป็นสุนัขที่มีเสน่ห์ มีความซื่อสัตย์และมีความจงรักภักดีต่อ และที่สำคัญเกรทเดนชอบที่จะได้รับความรักและความอบอุ่นจากผู้เป็นเจ้าของเสมอความเป็นมา

เกรทเดนสุนัขสายพันธุ์นี้ถูกพัฒนาขึ้นในประเทศ เยอรมนี สุนัขพันธุ์เกรทเดนเป็นสุนัขที่มีขนาดใหญ่ แข็งแรง มีความสามารถเฉพาะตัวสูง ชาวเยอรมันได้พัฒนาสุนัขพันธุ์นี้ขึ้นมาเพื่อล่าหมูป่า แต่ในปัจจุบันเกรทเดนได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้ดีขึ้น

{pic-alt} ลักษณะนิสัย

เกรทเดนเป็นสุนัขที่ขี้ประจบ เป็นมิตร เงียบๆ และสุภาพกับเด็กๆที่ปฏิบัติต่อมันอย่างนิ่มนวล หากมีคนมาหาจะส่งเสียงเห่าดังๆ บอกเจ้าของให้รู้ แต่ไม่ก้าวร้าวหรือกัด

{pic-alt}

{pic-alt} การดูแล

เกรทเดน เป็นสุนัขขนสั้น เรียบเป็นมันเงางาม ควรแปรงขนให้สุนัขเกรทเดนทุกสัปดาห์เป็นประจำ 5-10 นาที ก็เพียงพอ เพราะเป็นสุนัขที่มีขนชั้นเดียว ดังนั้นในขณะที่ขนตายกำลังร่วงขนใหม่ก็จะขึ้นมาทดแทนทันที ทั้งนี้ผู้เลี้ยงควรหาเวลาออกกำลังกายให้มันอย่างสม่ำเสมอ แต่อย่าลืมคำนึงถึงพื้นที่ของบ้านของคุณด้วย ส่วนเรื่องของการออกกำลังกาย เกรทเดนเป็นสุนัขที่แข็งแรง อยากรู้อยากเห็นตามสัญชาติญาณของสุนัขล่าเนื้อ จึงควรให้เกรทเดนได้ออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อที่เขาจะได้ไม่อ้วนและไม่เครียด

{pic-alt} ผู้เลี้ยงที่เหมาะสม

เกรทเดนเติบโตอย่างรวดเร็วมาก ดังนั้นไม่ควรให้สุนัขออกกำลังกายมากเกินไปก่อนอายุ 12 เดือนต้องแน่ใจว่าบริเวณที่เลี้ยงควรมีรั้วรอบขอบชิด และเมื่อผู้เลี้ยงไม่อยู่บ้านต้องผูกสุนัขไว้ด้วยเพราะ เกรทเดน สามารถกระโดดข้ามรั้วได้สบายๆ ที่สำคัญผู้เลี้ยงจะต้องคอยให้ความรักความเอ็นดูสุนัขด้วยนะ

{pic-alt}



{pic-alt}ข้อดีข้อเสีย

ข้อดี สง่า, ภูมิใจในตัว, ฉลาด และแข็งแรงมาก เป็นสุนัขเฝ้ายามและเฝ้าบ้านที่กล้าหาญ วางใจได้ (เหมาะฝึกเป็นสุนัขใช้งาน) จะก้าวร้าวดุดันต่อเมื่อสถานการณ์บังคับเท่านั้นหรือเห็นว่านายของมันมีอันตราย เพราะรูปร่างของมันก็พอจะทำให้คนแปลกหน้าเกรงได้แล้วและรักเด็ก
ข้อเสีย ถ้าได้รับการเลี้ยงดูอย่างไม่ถูกต้อง มันอาจจะพยายามทำตัวเป็นนายของใครต่อใครในบ้านและที่แย่กว่านั้นคืออาจจะควบคุมไม่ได้เอาเลยและดุร้ายอันตรายมาก